Close
Advertiser
loading...

Monday, April 17, 2017

เพื่อแม่ ลูกคนนี้ยอมทุกอย่าง !! เผยข้อความสุดซึ้งเมื่อ "ตั๊ก บงกช" ยืนยันสละไตให้แม่ เพื่อให้แม่ไม่เห็นสิ่งนี้ !!

·   0


loading...
เป็นข่าวคราวความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ ของดาราสาว ตั๊ก บงกช หลังจากที่ คุณแม่เล็ก ซึ่งรักษาอาการป่วยอยู่นาน ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ หลังจากที่รักษาตัวอยู่นาน ตั้งแต่ ต้นปี 2559 จากภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ ต้องนอนพักอยู่ในรพ.นานกว่า 1 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ สาวตั๊ก ได้ทำการตัดสินใจ เข้ารับการผ่าตัดเพื่อบริจาคไตข้างหนึ่ง ให้กับคุณแม่ เพราะการรอรับบริจาคนั้น อาจใช้เวลานานเกินไป และตนเอง อยากที่จะให้คุณแม่ หายป่วย และอยู่กับ น้องข้าวหอมไปนานๆ จนหลานบวช…โดยสาวตั๊ก ได้เคยบอกเล่าถึงเรื่องการบริจาค ไต ของเธอ ให้กับคุณแม่เอาไว้ ดังนี้


“คือก่อนหน้านี้แม่ตั๊กเป็นโรคไต ต้องฟอกไตอาทิตย์ละ 4 ครั้ง และก็มีอาการเหนื่อยหอบ ซึ่งในอนาคตก็คาดว่าน่าจะต้องฟอกไตมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า และการฟอกเพิ่มขึ้นก็จะทำให้แม่ลำบากมากกว่าเดิมเพราะว่าแม่จะไปไหนไม่ได้ เหมือนกับการจะใช้ชีวิตจะลำบากมากขึ้น และการฟอกไตแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชม. และแม่ก็เลยไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลที่แม่ไปฟอกไต หมอแนะนำว่าถ้าแม่เปลี่ยนไตจะดีกว่า แม่จะได้ไม่ต้องฟอกไตอีก และถ้าแม่ดูแลตัวเองดีตลอดและมีไตใหม่มาทดแทนไตเดิม แม่ก็จะไม่ต้องฟอกไต แม่จะไม่ได้เป็นโรคไตแล้ว แม่จะเป็นแค่เบาหวาน และโรคหัวใจเท่านั้น”

 “ตั๊กก็เลยมาปรึกษากับสามีว่าการที่เราไปขอไตที่เขามาบริจาคเป็นยังไง สามีเลยแนะนำให้ไปคุยกับหมอเกี่ยวกับไตที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หมอเขาบอกว่าเรื่องการที่คนมาบริจาคไตให้กับคนที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง เนื้อเยื้อจะต่างกัน ดีเอ็นเอจะต่างกัน แม้จะผ่าตัดกันไปแล้วเข้ากันได้บ้าง แต่ก็อาจจะมีการโอกาสติดเชื้อ อาจจะมีผลในเรื่องของไตวายสูง แต่ถ้าคุณตั๊ก ให้ไตคุณแม่ หมอว่าก็โอเคนะ มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะคุณตั๊กเป็นลูกมีดีเอ็นเอที่เหมือนกัน แต่คุณตั๊กต้องตรวจเลือดก่อนว่าเลือดเข้ากันได้ไหม เพราะเลือดคุณแม่เป็นบี ส่วนของตั๊กเป็นโอ และพอไปตรวจกรุ๊ปโอให้ใครก็ได้”

“ตั๊กเลยตัดสินใจบอกแม่กลับไปว่า แม่เอาไตตั๊กนี่แหละ ไม่ต้องขอบริจาคจากไตคนอื่นหรอก เพราะไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร และถ้าได้ขึ้นมาเกิดเป็นไตของคนแก่ แม่อาจจะทรุดลงไปมากกว่า และที่สำคัญไม่ใช่จะได้เลยเพราะต้องต่อคิวรออีกนานเลย แม่ก็เลยบอกว่าไม่เอาไตของตั๊กหรอกเพราะแกต้องเลี้ยงลูก แกต้องอยู่กับลูก เพราะการปลูกถ่ายไต คนที่บริจาคไตให้นั้นต้องดูแลตัวเองดีๆ เพราะการมีไตข้างเดียวอาจจะแข็งแรงกว่าคนมีไต 2 ข้าง แต่คุณหมอเขาก็บอกว่าบางเคสถ้าคนที่บริจาคไต ดูแลตัวเองไม่ดี ไตอาจจะเสื่อมลง เผลอๆ อาจจะถึงขั้นไตวายก็เป็นได้ ตั๊กก็เลยบอกแม่ว่าโอ๊ย…ยังไงตั๊กก็ต้องตายอยู่ดี แม่อย่าคิดมากเลย หนูอยากให้แม่อยู่รอดูข้าวหอมบวชเท่านั้นเอง ไม่อยากให้แม่ต้องมานั่งเครียดนั่งทุกข์ เพราะเวลาที่แม่ต้องไปฟอกไตก็จะมาบ่นว่าปวดหัว ปวดขา ขาบวม เพระต้องเจาะโน้นเจาะนี่ ตอนนี้แม่พรุนไปทั้งตัวแหละเพราะเจาะทั้งวัน ย้อนกลับไปตอนที่แม่ตั๊กลำบาก ตอนที่ตั๊กยังเด็กๆ พวกเราก็ไม่ได้กินของดีนะ ทำงานหนัก ตั๊กกินนมแม่มาถึง 2 ขวบ แล้วพอแม่แก่ แม่จะเอาร่างกายที่ดีมาจากไหน เพราะตั้งแต่สาวๆ แม่ก็ทำงานหนักมาโดยตลอด ตั๊กก็เลยคิดว่าอยากให้แม่มีไตใหม่”

“แต่หนูก็เชื่อในเรื่องของบุญไง ถ้าหนูเอาไตให้แม่ไปหนูก็คงไม่แย่ลงหรอก คือเรื่องความกตัญญูมันเป็นหน้าที่ของลูกอยู่แล้ว มันไม่ใช่การปฏิบัติ แต่มันเป็นหน้าที่ของลูกอยู่นะ เพราะตอนเด็กๆ ตั๊กกับแม่เองก็ฝ่าฟันอะไรมาเยอะ และแม่ก็หยิ่งไม่ได้ไปขอใครกิน ตั้งแต่เลิกกับพ่อหนู”


แม้จะตัดสินใจบริจาคไตให้แม่ แต่แม่ก็ปฏิเสธที่จะรับ จนต้องยกเหตุผลทั้งหลายมาอธิบาย
“ตอนแรกตั๊กก็คิดเรื่องซื้อไตมาเปลี่ยน แต่มันเป็นเรื่องผิดกฏหมายผ่าตัดในเมืองไทยไม่ได้ และถ้าไปผ่าตัดที่เมืองนอกเขาก็ให้เซ็นด้วยนะว่า ถ้าตายเขาก็จะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการเสี่ยงมากกว่าอีก และย้อนกลับมาถ้าเอาไตที่เขามาบริจาคก็จะเสี่ยงกับแม่มาก เพราะถ้าเปลี่ยนไปแล้วอาจจะเข้ากับแม่ไม่ได้ และการซื้อขายไตพูดออกสื่อนั้นผิดกฎหมายแน่นอน หนูไปปรึกษาหมอมาแล้วเรื่องจะซื้อไต หมอบอกว่ามันผิดกฎหมายนะคุณตั๊ก มันทำไม่ได้ ขนาดหนูเอาไตตัวเองให้แม่ เขาก็รู้กันทั้งประเทศว่าหนูนะเป็นลูก เขายังขอใบเกิดหนูเลย และยังต้องให้สภากาชาดอนุมัติเลย แต่คงไม่มีปัญหาเพราะผลตรวจผ่านแล้ว แต่ที่ต้องทำเรื่องให้กาชาดอนุมัติเพราะว่าตั๊กกับแม่ต้องมาตรวจร่างกายอยู่เรื่อยๆ ก่อนที่จะผ่าตัด ซึ่งจะจะผ่าในอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคมนี้”


 “และตั๊กก็ยังบอกว่าถ้าไม่เอาไตของตั๊ก แล้วแม่จะเอาไตใครล่ะ ถ้าแม่จะไปเอาไตที่เขาบริจาคที่กาชาดก็มีคนมารอคิวตั้งเยอะแยะ มีคิวที่เขาจะเอาไตที่มาจากการบริจาคก่อนแม่ตั้งพันกว่าคนนะ และแม่จะได้ผ่าเมื่อไร ซึ่งใช้เส้นก็ไม่ได้นะ เรื่องไตไม่เกี่ยวกับเส้นสายนะ หรือว่าถ้าซื้อก็ผิดกฎหมายนะ เราก็ยกโน้นนี่นั่นมาบอกให้ฟัง ซึ่งนางก็ฟังนะ นางก็เริ่มน้ำตาคลอเกือบจะร้องไห้เลยนะ นางก็บอกว่าขอบใจนะ มาลูบหัวหนูและก็พูดว่าให้เอ็งเจริญนะที่ช่วยแม่ หนูก็จะร้องไห้ ดราม่ากันหนักมากเลย ซึ่งตอนนี้แม่ก็ไม่ต้องทำอะไรที่มันหนักมาก ก็ให้ดูแลตัวเองไป พยายามอย่าให้เบาหวานขึ้น ซึ่งยาควบคุมสำหรับนางดีมาก”   “ถามว่าตั๊กกลัวไหม ตั๊กไม่กลัวเลยนะ แต่ตั๊กปลื้มใจมากที่เราเกิดมาทั้งทีเราก็ยังมีประโยชน์บ้าง เพราะก่อนหน้านี้ตั๊กก็จะยุ่งๆ กับการเอาผ้าไหมทอมือที่นำมาจากภาคอีสาน แล้วเอามาขายโดยที่ไม่ได้หักเปอร์เซ็นต์ภายใต้แบรนด์ผ้าไหมบงกช รวมไปถึงตั๊กยังเป็นจิตอาสาร่วมด้วยช่วยกัน 1677 ตั๊กเป็นเหมือนกระบอกเสียงเพื่อช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ หรือว่าแจ้งเหตุต่างๆ ตั๊กเลยรู้สึกว่าเวลาที่แม่เป็นอะไร ก็ได้แต่ใช้เงินซื้อยาให้กิน แต่เวลาที่แกปวดหัวหนักๆ แกปวดขา เห็นแบบนี้เราก็เศร้า อย่างเวลาตอนเด็กๆ เรางอแง เขาก็จะอุ้มเราโอ๋เรา แต่ตอนเราโอ๋แก เราทำอะไรไม่ได้มาก (น้ำเสียงสั่นคลอ) แต่พอตอนนี้เราตัดสินใจที่ราจะเอาไตให้เขาแล้ว เราก็รู้สึกปลื้มใจ ดีใจ”


“นอกจากร่างกายที่หมอบอกว่าแม่แข็งแรงแล้ว อีกหนึ่งกำลังใจก็คือข้าวหอมด้วย แกรักข้าวหอมมาก แกหวังกับข้าวหอมไว้เยอะมาก แกหวังอยากให้ข้าวหอมบวช จะได้เห็นข้าวหอมโตอะไรอย่างงี้ พอแกพูดอย่างงี้หนูก็เลยอยากให้แกสมหวังในความปรารถนาของแก และที่ดีกว่าคือแม่จะไม่ได้เป็นโรคไตอีกเลย อันนี้คือสิ่งที่ดีมาก”

From: http://www.siamvariety.com/view-17926.html

Subscribe to this Blog via Email :